เสื้อนักศึกษา ชุดนักศึกษา หญิง ชาย กระโปรงนักศึกษา ไซส์ใหญ่ กระโปรงทรงเอ ทรงสอบ กระโปรงพรีท พรีทเอวต่ำ กางเกง เข็มขัด ตุ้งติ้ง CAMPUS เครื่องแบบนักศึกษา เสื้อนักศึกษาหญิง เสื้อนักศึกษาชาย เสื้อนักศึกษาไซส์ใหญ่ กางเกงนักศึกษา เข็มขัดนักศึกษา หัวเข็มขัด เนกไทนักศึกษา กางเกงเดฟ กระบอกเล็ก ขาม้า รูปภาพนักศึกษาสวย น่ารัก ใส ข่าวประชาสัมพันธ์ด่วน ร้านชุดนักศึกษา แบล็คแอนด์ไวท์ โดนไฟไหม้
หน้าแรก
เสื้อนักศึกษา
กระโปรงนักศึกษา
กางเกงนักศึกษา
เข็มขัดนักศึกษา
ตุ้งติ้งนักศึกษา
ทรงผมรับปริญญา
ไปมอเตอร์โชว์กับนักศึกษา
นักศึกษากับไอที

เพลงรับน้อง เพลงเชียร์กีฬา
รายชื่อมหาวิทยาลัย/สถาบัน
นักศึกษาพาเที่ยว
แบบทรงผมรับปริญญา
ชุดนักศึกษาหญิง ชุดนักศึกษาชาย กระโปรงนักศึกษาไซส์ใหญ่ university uniform,student uniform,Thailand university, Thai girl,Student girl,Pretty girl เที่ยวนักศึกษา ชุดว่ายน้ำ นางแบบ เรื่องเล่านักศึกษา นักศึกษาขาย ของ ดารา บันเทิง แบบทรงผมรับปริญญา

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รวมประกาศ! เลื่อนสอบ - เลื่อนเปิดเทอม มหาวิทยาลัย

รูปน้ำท่วม ม.ธรรมศาสตร์รูปน้ำท่วมมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (มกท.)

*มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (มกท.) ประกาศเลื่อนเปิดเทอม ทั้งวิทยาเขตรังสิต และวิทยาเขตกล้วยน้ำไทย จากเดิมวันที่ 31 ต.ค. 54 เลื่อนเป็นวันที่ 28 พ.ย. 54 และประกาศปิดวิทยาเขตรังสิตจนถึงวันที่ 30 ต.ค. 54 และ ให้นักศึกษาที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน หรือ ยังไม่ได้ชำระเงินค่าลงทะเบียน ไปติดต่อดำเนินการด้วยตนเอง ที่ฝ่ายทะเบียน วิทยาเขตกล้วยน้ำไท ในวันที่ 27 ต.ค. 54 และ 1,2,3,7 พ.ย. 54 (กำหนดเดิม)

สำหรับนักศึกษาที่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ว และจ่ายเงินแล้ว (Pre- Register) สามารถลงทะเบียนเพิ่มวิชา ทางระบบ On-Line ได้ ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 54 ส่วนนักศึกษาที่บ้านประสบภัยน้ำท่วม โปรดแจ้งขอผ่อนผันการลงทะเบียนที่ records_office@bu.ac.th ติดตามข้อมูลและสอบถามได้ที่ ฝ่ายทะเบียน 02-350-3500 ต่อ 1551,1552,1553 หรือ
http://www.bu.ac.th/

*มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ประกาศเลื่อนวันเปิดเทอม จาก 31 ต.ค. 54 เป็นวันที่ 14 พ.ย. 2554 ส่วนการลงทะเบียน และการชำระค่าหน่วยกิต/ค่าธรรมเนียม ยังคงตามกำหนดเดิม เนื่องจากนิสิตสามารถลงทะเบียนได้ทางอินเทอร์เน็ต และชำระค่าหน่วยกิตและค่าธรรมเนียมผ่านธนาคาร ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
http://www.registrar.ku.ac.th/ นอกจากนี้ยังมีประกาศเลื่อนวันปิดเทอมจากวันที่ 12 มี.ค. 2555 เป็นวันที่ 19 มี.ค. 2555 อีกด้วย

*จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เลื่อนเปิดเทอมออกไปอีกจาก 26 ต.ค. 54 เป็น 7 พ.ย. 54 นอกจากนั้น ยังสั่งยกเลิกงานวันลอยกระทง ในวันที่ 10 พ.ย. 54 และเลื่อนงานจุฬาฯ วิชาการ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23-27 พ.ย. 54 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด นักศึกษาสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่
http://goo.gl/evcHn

*มหาวิทยาลัยมหิดล ขยายเวลาการลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา ภาค 2/2554 ดังนี้ ช่วงลงทะเบียนปกติ ตั้งแต่วันที่ 3- 28 ต.ค. 2554 ขยายระยะเวลาปิดการลงทะเบียนวันที่ 29 ต.ค. - 6 พ.ย. 2554 และชำระค่าลงทะเบียนวันสุดท้าย วันที่ 30 พ.ย. 2554 สามารถดูรายละเอียดได้ที่
http://www.grad.mahidol.ac.th/grad/index.php

*มหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.) ประกาศเลื่อนสอบไล่ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 จากเดิมที่กำหนดสอบในช่วง ปลายเดือน ต.ค. 54 ให้เลื่อนไปเป็นวันที่ 14-15, 21-22 มกราคม 2555 แทน รวมถึงส่วนภูมิภาคของนักศึกษาปริญญาตรี 43 จังหวัดด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่ม โทร.0-2310-8611 หรือ
http://www.ru.ac.th

*สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ยังไม่มีประกาศเลื่อนเปิดเทอมอย่างเป็นทางการ ยังเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำเป็นระยะๆ ขณะนี้ยังใช้กำหนดการเดิม คือ นักศึกษาสามารถลงทะเบียนได้ในวันที่ 19-28 ต.ค. 54 และเปิดเทอมในวันที่ 31 ต.ค. 54 หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

*มหาวิทยาลัยศรีปทุม ยังไม่มีประกาศเลื่อนเปิดเทอมอย่างเป็นทางการ กำลังดูสถานการณ์น้ำท่วม จะร่วมประชุมในวันศุกร์ที่ 21 ต.ค. นี้ และจะประกาศให้ทราบต่อไป ติดตามได้ที่
http://goo.gl/BWQUG

*มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ประกาศการเลื่อนเปิดภาคเรียนการศึกษาที่ 2/2554 โดยระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เดิมเปิดวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2554 เลื่อนเปิดวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2554 และ ระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษา เดิมเปิดวันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2554 เลื่อนเปิดวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2554 สอบถามรายละเอียดได้ที่ กองบริการการศึกษา มจพ.โทรศัพท์. 0-2913-2500 ต่อ 1622-1635 และติดตามข่าวสารได้ที่
http://goo.gl/x4zRp

*มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประกาศยืนยันเปิดเทอมตามกำหนดเดิม! คือวันที่ 31 ต.ค.2554 ในส่วนของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) โรงเรียนประสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ส่วนขยาย) มศว องครักษ์ กำหนดเปิดเรียนในวันที่ 2 พ.ย. 2554 ตามเดิม หากมีข้อมูลเปลี่ยนแปลงทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

*มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช (มสธ.) ประกาศเลื่อนกำหนดการสอบไล่ภาค 1/2554 ของนักศึกษาทุกระดับ และผู้เรียนโครงการสัมฤทธิบัตร รุ่นที่ 76 จากวันเสาร์ที่ 29 และวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2554 เป็นวันเสาร์ที่ 10 และวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2554 นอกจากนั้น ทาง มสธ.ยังงดจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนการสอนของนักศึกษาทุกระดับ งดการอบรมชุดประสบการณ์วิชาชีพ และการฝึกปฎิบัติเสริมทักษะชุดวิชาทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 13-25 ตุลาคม 2554 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-504-7788

*มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ประกาศปิดทำการ 2 วัน คือ วันที่ 20 และ 21 ตุลาคม 2554 และจะเปิดทำการตามปกติในวันอังคารที่ 25 ตุลาคม 2554 และเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 2/2554 จากวันที่ 25 ตุลาคม 2554 เป็นวันที่ 31 ตุลาคม 2554 สอบถามรายละเอียดเพิ่มที่ 02954-7300 กด 0 หรือ 538 หรือ 722 สำหรับนักศึกษาที่มีกำหนดลงทะเบียนเรียนในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถติดตามประกาศได้ที่
http://www.dpu.ac.th

*มหาวิทยาลัยรังสิต ประกาศเลื่อนการเปิดการเรียนการสอน จากวันที่ 25 ตุลาคม 2554 เป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 โดยนักศึกษาสามารถติดตามรายละเอียดและข่าวสารได้ที่ แฟนเพจ "RANGSIT UNIVERSITY,THAILAND" หรือ
http://www.rsu.ac.th

*กสพท. ออกประกาศเลื่อนสอบตรงแพทย์-ทันตแพทย์ จากเดิมที่กำหนดสอบวิชาเฉพาะในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2554 เลื่อนไปเป็นวันที่ 25 ธันวาคม 2554 ทั้งนี้ ผู้สมัครสอบสามารถตรวจสนามสอบและพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบใหม่หลังวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 ต่อไป สามารถติดต่อสอบถามการสมัครสอบ กสพท.ปีการศึกษา 2555 ได้ที่หมายเลข 0-2419-6446, 0-2419-6463 เฉพาะวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00-12.00 น. และเวลา 14.00-16.00 น. หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ กสพท.
http://www9.si.mahidol.ac.th

*มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) ประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนไปเป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 ติดตามเพิ่มเติมที่
http://www.rmutt.ac.th/ หรือ http://twitter.com/pr_rmutt โทร. 02-549-3613-15

*มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ประกาศเลื่อนเปิดเรียนในภาคการศึกษา 2/2554 จากวันที่ 25 ตุลาคม เป็น กำหนดเปิดวันที่ 31 ต.ค. 2554 โดยนักศึกษาสามารถเข้าถึงบริการ และติดตามข่าวสารของมหาวิทยาลัยได้ตามปกติ ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย
http://www.au.edu รวมถึงบริการ E - Library ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับการลงทะเบียนในปีการศึกษา 2/2254 สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ถึงวันที่ 28 ต.ค. 2554 และชำระค่าลงทะเบียนได้ถึง 30 ต.ค. 54

*มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.บางมด) ประกาศเลื่อนเปิดภาคเรียน จากวันที่ 31 ต.ค. 2554 ไปเป็นวันที่ 14 พ.ย. 2554 โดยเปิดให้นักศึกษาลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. - 8 พ.ย. นี้ แต่สำหรับนักศึกษาที่ประสบภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมสามารถลงทะเบียนได้โดยไม่ต้องเสียค่าปรับการลงทะเบียนล่าช้า และอนุมัติให้ผ่อนผันการชำระค่าบำรุงการศึกษาและค่าธรรมเนียม ได้จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2554 หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-4708000

*มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) กำหนดวันเปิดภาคการศึกษา 2/2554 ตามปกติ ในวันที่ 31 ต.ค. 2554 โดยนักศึกษาภาคปกติสามารถลงทะเบียนเรียนและชำระเงินได้ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. นี้ หรือติดตามรายละเอียดจากปฏิทินการศึกษาประจำปี 2554 ได้ที่
http://goo.gl/TWwBP

ส่วน *มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้เปิดเรียนในภาคการศึกษา 2/2554 ตามปกติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา นักศึกษาสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่
http://reg.kku.ac.th

Update on 21 Oct 2011 : 16.35 pm
from : manager online

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เปลี่ยนเวลาเปิด-ปิด มหาวิทยาลัยไม่สอดคล้องไทย

ปรับปฏิทินการศึกษาตามอาเซียน จะเกิดผลกระทบมากกว่าได้ประโยชน์ ชี้หากย้ายเปิดเทอม 1 ไปก.ย.-ธ.ค.อาจเจอน้ำท่วม เด็กไปเรียนไม่ได้ ส่วนเทอม 2 ย้ายไปเปิด ม.ค.-พ.ค.คร่อมหน้าร้อน เด็กอาจไม่อยากไปเรียน แนะ ทปอ.ไปศึกษาผลกระทบหรือสำรวจความเห็นให้ดีก่อนเสนอมาใหม่ “ประสาท” รับหากเลื่อนแล้วไม่เกิดประโยชน์จริง แค่ปรับใกล้เคียงก็พอ

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ย้ำมติที่จะให้มีการปรับเลื่อนปฏิทินการศึกษาไทยให้ตรงกับปฏิทินการศึกษาอาเซียน จากเดิมที่มีการเปิดภาคเรียนที่ 1 ในช่วงเดือน มิ.ย.-ต.ค. ภาคเรียนที่ 2 ช่วงเดือน พ.ย.-มี.ค.เปลี่ยนเป็นการเปิดภาคเรียนที่ 1 ในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. ภาคเรียน 2 ช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.นั้นว่า ตนมีข้อสังเกตว่าการเปิด-ปิดภาคเรียนนั้น แต่เดิมจะหลบอยู่ 2 ช่วง คือ ช่วงฤดูร้อน กับฤดูฝน ซึ่งจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเวลานี้ ก็สะท้อนให้เห็นว่าหากเปิดเทอมในช่วงฤดูฝน การเดินทางยากลำบากมาก และก็มีแนวโน้มว่าอาจมีปัญหาน้ำท่วมอย่างนี้ทุกปี ซึ่งหากย้อนกลับมาดูปฏิทินที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่เปิดเทอม 1 ระหว่างเดือน มิ.ย.-ต.ค. ถือว่าเป็นการหลบหน้าน้ำแล้ว แต่ถ้าหากปรับปฏิทินมาเป็นเปิดเทอมระหว่างเดือน ก.ย.-ธ.ค. ช่วงนี้จะเจอน้ำเต็มๆ

นอกจากนี้ การเปิดเทอม 2 ที่ปัจจุบันเปิดระหว่างเดือน พ.ย.-มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวอยู่แล้ว และไม่กระทบกับฤดูร้อน แต่หากมีการปรับปฏิทินใหม่ตามอาเซียน ให้ไปเปิดเทอมระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค. อาจจะไปคร่อมกับฤดูร้อน อาจทำให้เด็กไม่อยากมาเรียน ส่งผลผลกระทบต่อการจัดการศึกษาอุดมศึกษา และการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ ดังนั้น ตนจึงอยากให้ ทปอ.ไปศึกษาผลกระทบและสำรวจความคิดเห็นให้รอบด้านก่อน เพราะหากจะมีมติอะไรออกไปก็ต้องมีคนที่เห็นด้วย และต้องไม่กระทบต่อการเรียนการสอนมากนัก

“หากมหาวิทยาลัยจะเลื่อนปฏิทินการศึกษาส่วนอื่นก็จะต้องปรับตัวตามด้วย แต่เบื้องต้นก็ต้องดูความชัดเจนว่า หากเราปรับตามเขาเราจะมีประโยชน์อะไร เพราะเรามีปัญหาว่าหากจัดการเรียนการสอนในฤดูน้ำหลากแล้ว ก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรกับนักเรียนเลย และก็คงจะไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตกับคนไทยสักเท่าไหร่ ดังนั้น ก่อนที่ ทปอ.จะมีมติก็ต้องรับฟังความเห็นก่อน ซึ่งหากคนส่วนใหญ่เห็นด้วยผมก็จะไม่ขัดข้อง” รมว.ศธ.กล่าว

ด้าน ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในฐานประธาน ทปอ. กล่าวว่า ในเร็วๆ นี้ ทปอ.เตรียมจะศึกษาอย่างละเอียดกรณีการปรับเลื่อนปฏิทินดังกล่าว เพราะต้องการจะดูว่าหากเลื่อนแล้วจะส่งผลกระทบอะไรต่อการเรียนการสอนหรือไม่ ซึ่งอย่างที่หลายฝ่ายให้ความเป็นห่วงว่า การเลื่อนไปตรงกับช่วงฤดูฝนและฤดูร้อนจะไม่เกิดประโยชน์กับเด็กนั้น ประเด็นนี้เราก็จะนำไปศึกษาให้ละเอียดด้วย อย่างไรก็ตาม ทปอ.ก็ยังไม่ได้ยืนยันปฏิทินที่ตายตัวว่าจะต้องเลื่อนให้ตรงกับอาเซียนทั้งหมด เพราะหากศึกษาแล้วพบว่าการเลื่อนดังกล่าวสร้างผลกระทบมากกว่าประโยชน์นั้น ก็อาจจะเลื่อนให้ใกล้เคียงอาเซียนก็พอ.

from : thaipost.net

ฉันท้อง...เสียตัว เสียอนาคต เพราะไอ้คนชั่ว "ข่มขืน"

ฉันท้อง...เสียตัว เสียอนาคต เพราะไอ้คนชั่ว ข่มขืน นักศึกษา
มีสองขีดปรากฏชัดขึ้นมาบนแผ่นทดสอบ ฉันร้องไห้โฮ อยากตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด เป็นไปได้อย่างไรที่ฉันท้อง ฉันถูกไอ้คนใจชั่วข่มขืนแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

วันที่พ่อด่าทออย่างรุนแรงและไล่ฉันออกจากบ้าน เพื่อนคนหนึ่งพาฉันเข้ากรุงเทพฯ เพื่อฝากทำงานในร้านขายอาหารย่าฝั่งธนฯ ฉันมีหน้าที่เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มให้ลูกค้า

สี่วันแรกทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น ฉันเริ่มทำงานได้คล่องแคล่วมากขึ้น แต่ใจก็ยังอยากกลับบ้าน คิดถึงแม่ และหายโกรธพ่อแล้ว อยากรู้ว่าถ้ากลับไปบ้าน พ่อจะยังโกรธจะไล่ฉันอีกไหม

วันที่ห้าของการทำงาน อยู่ลูกค้าคนหนึ่งก็ถามขึ้นมาว่าคืนนี้ไปนอนกับเขาได้ไหม เขากระเป๋าหนักนะ ฉันสั่นหน้าด้วยความตกใจ ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง รีบกลับเข้าหลังร้าน สักพักเฮียเจ้าของร้านเดินเข้ามาตาม เขาบอกให้ฉันไปกับลูกค้า ห้ามปฏิเสธ เด็กเสิร์ฟทุกคนต้องทำงานนี้ทั้งนั้น

ฉันไม่ยอม เฮียไม่ได้บอกฉันก่อน และถ้าฉันรู้ฉันจะไม่ทำงานร้านนี้อย่างแน่นอน

“หนูออกก็ได้”

ฉันโพล่งออกไปเพราะหัวเด็ดตีนขาดฉันก็จะไม่ทำอย่างนี้

“ใจเย็นๆ จิบเบียร์เย็นๆ แล้วคุยกันไปเรื่อยๆ เรื่องทุกเรื่องตกลงกันได้” เฮียพูด

ฉันเคยลองกินเบียร์กับเพื่อนๆ ไม่ค่อยชอบเพราะมันขมมากกว่าอร่อย แต่ก็ยกแก้วขึ้นจิบด้วยความเกรงใจ เฮียชวนคุย ถามเรื่องทางบ้าน เรื่องโน้นเรื่องนี้

เวลาผ่านไปแค่เดี๋ยวเดียวฉันเริ่มรู้สึกง่วงนอนอย่างรุนแรงเสียงเฮียบอกว่าง่วงก็ไปนอนก่อนแล้วกัน จะเดินไปส่งห้องพักซึ่งอยู่หลังร้าน

ฉันก้าวเข้าไปในห้องพัก เฮียเดินตามมาประชิดตัว แล้วหัวฉันก็หมุนติ้ว มองอะไรไม่เห็น สติดับวูบ พอเริ่มรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาเฮียนั่งอยู่ปลายเตียง

เขาบอกว่าเพิ่งรู้ว่าฉันยังบริสุทธิ์อยู่ ขอโทษที่ทำลายฉัน ขอรับผิดชอบทุกอย่าง แล้วเขาก็ลุกขึ้น บอกว่าเดี๋ยวจะกลับเข้ามา ฉันฉุกคิดขึ้นในใจ ถ้าเขากลับมาพร้อมคนอื่นๆ อีกล่ะ ฉันกำลังจะถูกรุมโทรมหรือเปล่า เรื่องราวที่เคยอ่านในหนังสือพิมพ์แว่บเข้ามาในหัว

สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ฉันรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วเดินเลาะออกไปทางหลังร้าน มอเตอร์ไซด์รับจ้างวิ่งผ่านมา ฉันรีบเรียกให้ไปส่งหน้าปากซอย ฉันโทรไปหาลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน เขาย้ายมาอยู่กรุงเทพนานแล้ว แต่บ้านอยู่ไกลเกือบถึงพระประแดง เขาบอกทางให้ฉันขึ้นรถเมล์ไปหา

ฉันอยู่กับเขาได้เกือบเดือน ก็เดินทางกลับบ้านเพราะญาติส่งข่าวมาว่าพ่อหายโกรธแล้ว ฉันกลับไปเรียนหนังสือต่อ เพราะปิดเทอมพอดี ทุกเย็นพอเลิกเรียนก็ไปเรียนพิเศษต่อเหมือนเดิม

ชีวิตกลับเข้าสู่ความปกติอีกครั้ง มีเพียงลูกพี่ลูกน้องที่กรุงเทพคนเดียวเท่านั้นที่ฉันเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้าง เราสัญญากันว่าจะเก็บเป็นความลับ เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป

ฉันกลับบ้านได้เกือบสองเดือน เพิ่งสังเกตว่าเมนส์ไม่มานานแล้ว พยายามนึกทบทวนถึงครั้งสุดท้ายที่เมนส์มา น่าจะสองสามเดือนมาแล้ว หรือว่าฉันจะท้อง

ฉันก้มลงมองขีดสองขีดบนแผ่นทดสอบอีกครั้ง ความคิดหมุนติ้ว ถ้าฉันเข้ากรุงเทพไปบอกเฮีย เขาจะยอมรับหรือเปล่าว่าเป็นลูกของเขา เขาจะเชื่อหรือว่าฉันไม่มีแฟน ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใคร แล้วฉันจะต้องออกจากโรงเรียน หมดอนาคตไปเลยหรือเปล่า

น้ำตาเริ่มไหล ฉันตั้งใจจะเรียนให้สูง พ่อแม่ก็ตั้งใจอย่างนั้น เพราะเขาเหลือลูกพียงคนเดียว พี่ชายสองคนตายจากไปเพราะรถชนกันเมื่อปีที่แล้ว พ่อแม่ตั้งใจทุ่มเทให้ฉันเต็มที่ ฉันจะทำอย่างไรดี ตอนนี้ฉันท้องสามเดือนแล้วใช่ไหม สารพัดคำถามวิ่งวนอยู่ในหัว

หลายวันต่อมา ฉันตัดสินใจเด็ดขาดว่าต้องเอาออก ต้องหยุดการท้องนี้ให้ได้ ฉันไปที่ร้านขายยาที่เคยซื้อแผ่นทดสอบ ดูเหมือนไม่ต้องพูดอะไรมากคนขายก็จัดยามาให้เป็นชุด เขาบอกให้กินจนหมดทั้ง 6 เม็ด ถ้ายังไม่ออกให้กลับมาหาใหม่

ฉันกินยาทุกอย่างตามที่ร้านขายยาแนะนำ เริ่มตั้งแต่ยาอะไรไม่รู้จำนวน 6 เม็ด ต่อด้วยยาสตรีกับเหล้าขาวอีกหนึ่งอาทิตย์ ตามด้วยยาแผงละ 100 บาทที่มีแผงละ 10 เม็ดอีก 1 แผง ก็ยังไม่ออก

ในที่สุดฉันตัดสินใจเล่าเรื่องให้อาจารย์คนหนึ่งที่สนิทกันฟังตอนแรกอาจารย์อยากให้ไปแจ้งความ จะได้ไปขอให้หมอที่โรงพยาบาลทำแท้งให้ได้ แต่ฉันไม่กล้า ฉันไม่อยากให้ใครมารู้ว่าฉันโดนข่มขืนในที่สุดอาจารย์รับปากว่าจะคิดหาทางช่วยเหลือแต่ยังอยากให้ฉันลองคุยกับแม่ ฉันยังไม่กล้าอยู่ดี

เพื่อนในกลุ่มก็พยายามหาทางช่วย ครั้งหนึ่งเพื่อให้ไปยืนบนสะพานสูงซัก 10 เมตรเห็นจะได้ แล้วถีบฉันตกน้ำ บางครั้งก็ให้ซ้อนมอเตอร์ไซด์แล้วพาไปทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อ อีกคนแนะนำให้สูบบุหรี่จากที่ไม่เคยสูบ กลายเป็นคนสูบได้คล่อง แต่สูบไปเป็นสิบๆ ซองก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากนั้นอาจารย์ให้เงินมาสี่พันบาท ฉันเอาเงินเก็บของตัวเองมาสมทบอีกสองพันรวมเป็นหกพันบาท เพื่อเดินทางไปอีกอำเภอหนึ่งที่เพื่อนไปสืบมาว่ามีบ้านที่รับทำแท้ง

คืนนั้นฉันนอนร้องไห้ ในใจหนึ่งรู้สึกสงสารเด็กเพราะเริ่มดิ้นแล้ว ใจหนึ่งก็กลังไปตาย ยังไม่ได้คุยกับแม่ แล้วถ้าตายไปพ่อแม่จะทำอย่างไร เขาจะไม่เหลือลูกไว้ดูแลยามแก่เฒ่าเลย อีกใจหนึ่งก็รู้สึกฮึดว่าต้องรอด ต้องได้กลับมาเรียนจนจบพร้อมเพื่อนๆ ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจว่าต้องเสี่ยง ตายเป็นตาย ยังไงก็ต้องลองดู

ราวกับอยู่ในฉากหนังไทยสมัยก่อน บ้านนั้นเป็นบ้านไม้โทรมๆ มียายแก่ๆ นั่งอยู่ในบ้าน แกถามว่ากี่เดือนแล้ว ฉันบอกจะหกเดือนแล้ว แกบอกสบายมาก แปดเดือนยังเคยช่วยมาแล้ว

ยายให้ฉันเปลี่ยนไปใส่ผ้าถุง นอนบนเสื่อเก่าๆ ชันขาขึ้น แล้วแกก็ใช้มือล้วงเข้าไปในช่องคลอด ถุงมือก็ไม่ได้ใส่ แต่ตอนนั้นฉันไม่นึกถึงความสะอาดหรือสกปรกอะไรทั้งสิ้นทั้งปวง ยายบอกว่าจะใส่สายยางเข้าไปในมดลูก และฉีดน้ำยาอะไรสักอย่าง

แต่เวลาก็ผ่านไปถึงสี่ชั่วโมง โดยยังไม่สามารถสอดสายยางเข้าไปได้ ฉันเริ่มเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลามีเลือดไหลไม่หยุด ยายให้เพื่อนฉันคอยหั่นมะนาวจิ้มเกลือให้ฉันกินทั้งเปลือก

ในที่สุดก็บอกว่าสายยางเข้าไปได้แล้ว แกเริ่มฉีดน้ำยากลิ่นเหม็นอย่างกับยาฉีดศพ ฉันเริ่มรู้สึกร้อนภายในท้อง ยายบอกว่าให้ลุกขึ้นได้ ใส่ผ้าอนามัยเอาไว้กันเลือดและน้ำยาไหลออกมาเลอะเทอะ หลังจากนี้จะแท้งเอง แต่ถ้ายังไม่แท้งให้กลับมาจะรับผิดชอบทำต่อให้

ฉันอ่อนเปลี้ยไปหมดทั้งร่างกายและจิตใจ พยายามไม่คิดอะไรมาก มุ่งอยู่อย่างเดียวว่าต้องแก้ปัญหาให้ได้ คืนนั้นฉันไม่กลัวกลับบ้านไปนอนที่บ้านเพื่อน

วันรุ่งขึ้นมีเลือดออกมาจากช่องคลอดเต็มไปหมด กลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นน้ำหนอง ฉันกลัวแทบขาดใจรีบไปที่โรงพยาบาล พอหมดมาดูปุ๊บก็ด่าฉันเสียใหญ่โต ฉันยอมรับกับหมดว่าไปทำแท้งมา อ้อนวอนให้ช่วยฉันที ในที่สุดหมอก็ยอมฉีดยาให้

ฉันต้องฉีดยาทุก 4 ชั่วโมง วันรุ่งขึ้นเขาพาฉันไปอัลตราซาวน์ปรากฏว่าเด็กยังอยู่ปกติดีทุกอย่าง หมอบอกว่าเหมือนปิดประตูฉีดน้ำไม่เข้าในมดลูกเลย แต่เข้าไปในช่องท้อง ทำลายอวัยวะทุกส่วน ถ้ามาช้ากว่านี้จะตกเลือดจนช็อคตายได้เลย หมอบอก

ฉันนอนอยู่โรงพยาบาลรวมสามคืน ไม่มีใครมาเฝ้า แม่รู้แล้วเพราะให้ลูกพี่ลูกน้องไปบอก แต่แม่คงไม่กล้ามาเพราะกลัวพ่อจะรู้เป็นช่วงเวลาที่ใจมันช้ำที่สุด เห็นคนไข้คนอื่นมีญาติมาดูแล พยาบาลก็พูดจาดีๆ ด้วย ส่วนฉันพยาบาลแทบจะไม่มาจับต้องตัวเลย

พอออกจากโรงพยาบาล ฉันกลับเข้าบ้าน ใส่สเตย์รัดท้องเอาไว้ บอกพ่อว่าจะเข้ากรุงเทพมาหาญาติ พ่ออนุญาต

“กลับมาคนเดียวนะ” แม่กระซิบบอกกำชับ

จากนั้นเพื่อนคนหนึ่งก็พาเข้ากรุงเทพ ตามคำแนะนำของอาจารย์ที่อ่านเจอในนิตยสารว่ามีบ้านพักฉุกเฉินอยู่ที่ดอนเมือง ตอนนี้ฉันยังพักอยู่ที่บ้านพักนี้ ยังไม่แน่ใจนักว่าจะยกเด็กหรือจะเลี้ยงเอง ช่วงแรกๆ ที่รู้ว่าท้อง ฉันเคยดุด่า ไล่ให้เขาออกไปจากท้องฉัน เคยทุบ เคยตี จนตัวเองเจ็บ แต่หลังๆ มานี่ ฉันเริ่มสงสารพูดจาดีๆ กับเขา ยังไงก็อุ้มเขามาเจ็ดแปดเดือนแล้ว

ฉันนึกย้อนกลับไปดูปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันไม่น่าเชื่อเลยว่าฉันจะมีชะตาชีวิตาอย่างนี้ ฉันไม่เคยเที่ยวเตร่ออกนอกลู่นอกทาง ไม่เคยคบเพื่อนชาย เป็นเด็กเรียน ช่วยอาจารย์ทำกิจกรรมมาตลอด

มาทบทวนดูจริงๆ แล้วสิ่งที่ทำให้ฉันตัดสินใจทำแท้งมันมาจากสองอย่าง อันดับแรกเลยฉันกลัวพ่อแม่อับอายขายขี้หน้าชาวบ้าน

อย่างที่สองก็คืออนาคตของฉันเอง ถ้าเก็บเด็กไว้ ฉันก็ต้องหยุดเรียน เพื่อนๆ เรียนกันจบ แต่ฉันกลับเรียนไม่จบ จะกลายเป็นตัวประหลาดที่ถูกชาวบ้านจับตามองและซุบซิบนินทา

หาอ่านได้จาก : หนังสือ “มีเรื่องอยากเล่าให้ฟัง เสียงจากผู้หญิงที่ตั้งท้องเมื่อไม่พร้อม”
ที่มา : มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง