เสื้อนักศึกษา ชุดนักศึกษา หญิง ชาย กระโปรงนักศึกษา ไซส์ใหญ่ กระโปรงทรงเอ ทรงสอบ กระโปรงพรีท พรีทเอวต่ำ กางเกง เข็มขัด ตุ้งติ้ง CAMPUS เครื่องแบบนักศึกษา เสื้อนักศึกษาหญิง เสื้อนักศึกษาชาย เสื้อนักศึกษาไซส์ใหญ่ กางเกงนักศึกษา เข็มขัดนักศึกษา หัวเข็มขัด เนกไทนักศึกษา กางเกงเดฟ กระบอกเล็ก ขาม้า รูปภาพนักศึกษาสวย น่ารัก ใส ข่าวประชาสัมพันธ์ด่วน ร้านชุดนักศึกษา แบล็คแอนด์ไวท์ โดนไฟไหม้
หน้าแรก
เสื้อนักศึกษา
กระโปรงนักศึกษา
กางเกงนักศึกษา
เข็มขัดนักศึกษา
ตุ้งติ้งนักศึกษา
ทรงผมรับปริญญา
ไปมอเตอร์โชว์กับนักศึกษา
นักศึกษากับไอที

เพลงรับน้อง เพลงเชียร์กีฬา
รายชื่อมหาวิทยาลัย/สถาบัน
นักศึกษาพาเที่ยว
แบบทรงผมรับปริญญา
ชุดนักศึกษาหญิง ชุดนักศึกษาชาย กระโปรงนักศึกษาไซส์ใหญ่ university uniform,student uniform,Thailand university, Thai girl,Student girl,Pretty girl เที่ยวนักศึกษา ชุดว่ายน้ำ นางแบบ เรื่องเล่านักศึกษา นักศึกษาขาย ของ ดารา บันเทิง แบบทรงผมรับปริญญา

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ความในใจของพริตตี้

ความในใจของพริตตี้ความในใจของพริตตี้
1. นู๋เป็นแค่พริตตี้ค่ะ ไม่ใช่เซลล์ อย่าถามข้อมูลลึกได้ม๊ายย กรุก้อเพิ่งมารุ มะเช้านี้เอง

2. โปรดอย่ามาจีบนู๋ ส่วนใหญ่พวกนู๋ มีแฟนแล้ว ทั้งนั้น

3. แล้วแฟนพวกเราส่วนใหญ่ มักไม่หล่อ

4. อย่าชวนกินเหล้าค่ะ เด๋วไม่พอ แดกเหล้าเก่งซ้าาาาา ทุกนาง 55+ จริง ๆ

5. เวลามีงาน เอ่ออออ ครือว่า ไม่ทราบจะถ่ายรูปนู๋ไปทำมัยนักหนาคะ กูเมื่อยยิ้มเหมือนกันนะเว้ย

6. ถึงคุนช่างภาพมือโปรทั้งหลาย ถ่ายรูปนู๋ไม่ต้องใช้ซูมขนาดนั้นหรอกค่ะ โปรดระลึก เสมอนะคะว่า พวกนู๋ทั้งหลายก้อต่างมี สิว กระ ฝ้า หรือริ้วรอยอารยะธรรมต่างๆ ที่ไม่ได้อยากให้ใครเห็นเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่ส่องสัตว์เขาใหญ่ ไม่ต้องซูมขนาดนั้น

7. เวลามาถ่ายรูป ละซูม นม ซูม ก้น พวกนู๋รู้นะคะ มันออกทางสีหน้าค่ะ

8. เอ่อ... พริตตี้ไม่จำเป็นต้องใส่บูทก้อได้มั้งคะ ผ้าใบ กูก็ใส่เป็น..

9. ทำไมชอบนึกว่า หนูทำงานสบาย ยืน วันละ 7-8 ชั่วโมงบนรองเท้าส้นสูง 3-4 นิ้ว ยามยังแพ้ ทำไม่ได้นะคะ

10. อย่าคิดว่าพวกนู๋รวย บางเดือนแทบไม่มีแดก คอนเฟิร์ม

11. ถึงคุณแม่ช่างแต่งหน้าค่ะ คือว่า พวกนู๋บางคนก้อไม่ได้ดูดีใน ปากสีแดง หรืออายชาโดว์สีฟ้านะคะ แต่งแม่งบล็อคเดียว

12. อย่าพยายามขอเบอร์ โดยการอ้างว่าจะมีงาน อะไรเทือกนี้ พวกเราทุกคนรู้ทันหมดล่ะค่ะ แต่ไม่อยากพูด กลัวพี่หน้าแหก เจอหลอกแดกจะรู้สึก

13. พวกนู๋บางคน แก่กว่าพี่อีกค่ะ (หน้าด้านเรียกพี่)

14. อย่าพยายามดีใจทุกครั้งที่แซวพวกนู๋ได้ค่ะ ที่นู๋ยิ้ม ไม่ใช่อาย หรือดีใจที่แซว นู๋ด่าในใจอยู่ค่ะ ไอ้หน้าหม้อ ไม่เจียม แต่ด้วยหน้าที่ ด่าออกมาไม่ได้ค่ะ ถ้าชอบไม่ต้องกลัว จะเข้าไปเอง อย่างโจ่งแจ้ง

15. แคสงานนะคะ ไม่ใช่ประกวดนางงาม ถึงจะได้มีคุณสมบัติเพียบพร้อม เลือกซะทำงานระดับโลก

16. งานวันเดียว ราคาไม่ถึง 2พันบาท อย่าเรียกแคสเลยค่ะ หักค่าใช้จ่ายแล้ว พวกนู๋เหลือเงินแทบไม่ถึง 5 ร้อยเลยค่ะ แล้วช่วยจ่ายตังเลยจะดี เพราะมันวันเดียว

17. พวกนู๋ตื่นสาย (มาก) ถึงมากที่สุด

18. นักล่ารางวัลทั้งหลาย เอาไปทำซากอะไรเยอะแยะ คะนั่น พวกนู๋ทุกคนจำหน้าพี่ได้ค่ะ เสนอหน้าทุกงาน

19. เวลามาทำงานให้ตรงเวลา เวลาจ่ายตังขอให้ตรงด้วยนะคะ ทวงแม่งก็ว่า กูผิดเหรอ

20. พวกเราทุกคนมีหน้าที่หรือมีงานต่อค่ะ ถึงเวลาเลิกช่วยให้เลิกด้วยนะคะ ไอ้ประเภทบอกว่านายยังไม่มา หรือว่าอะไรประมาณนี้ไม่เกี่ยวกะพวกกูหนิคะ ถึงเวลาเลิกควรให้เลิกค่ะ เพราะไม่งั้น งานต่อไปเค้าจะว่า "พริตตี้ชอบเลท" ค่ะ

21. เวลามีดารามาร่วมงาน กรุณา ให้เกียรติพวกนู๋บาง คนเหมือนกัน ทำซะกูเป็นขยะเลย พวกนู๋ก็สำคัญ
ที่มา : forward mail

รวมพลังแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ค้าน ‘ม.นอกระบบ’ ไม่เอา ‘บริษัท มหาวิทยาลัย จำกัด’

รวมพลังแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ค้าน มหาลัยนอกระบบ ไม่เอา บริษัท มหาวิทยาลัย จำกัด
กลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา คัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ เดินสายรณรงค์ใน “ม.ขอนแก่น” แสดงจุดยืนไม่ให้ “มหาวิทยาลัย” กลายเป็น “บริษัท มหาวิทยาลัย จำกัด” เผยอยากมีชีวิตที่สวยงามในมหาวิทยาลัยที่รับใช้ประชาชน
วันนี้ (11 ธ.ค.54) กลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา คัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายนักศึกษาจาก 11 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จำนวนประมาณ 80 คน รวมพลังแสดงจุดยืนคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ โดยเคลื่อนขบวนไปที่ตึกอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อส่งสารถึงอธิการบดีฯ คัดค้านการนำมหาวิทยาลัยขอนแก่นและสถาบันการศึกษาของรัฐ ออกไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ออกนอกระบบ)
รวมพลังแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ค้าน มหาลัยนอกระบบ ไม่เอา บริษัท มหาวิทยาลัย จำกัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าตึกอธิการบดีฯ กลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษาฯ ได้นำป้ายผ้ามาปูเพื่อเปิดให้นักศึกษาเขียนข้อความส่งถึงอธิการบดีฯ และให้กำลังใจกลุ่มเพื่อนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ออกมาเครื่องไหวในเรื่องการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ อีกทั้งมีการพับจรวดกระดาษเพื่อเป็นการทวงถามถึงการเดินทางมายื่นหนังสือต่ออธิการบดีเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่าเสียงของเหล่านักศึกษาจะดังไปถึงอธิการบดีฯ หรือไม่ อย่างไรก็ตามในวันนี้เป็นวันหยุดของมหาวิทยาลัย จึงไม่มีการออกมารับข้อเรียกร้องของกลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษาฯ

จากนั้น กลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ได้นำป้ายผ้าที่เขียนเสร็จเคลื่อนขบวนไปยังศูนย์อาหารและบริการมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้ข้อมูลกับนักศึกษาและประชาชนทั่วไปให้ในรับทราบถึงจุดยืนของการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนต่อไปยังบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น และทำการติดป้ายผ้า “หยุด บริษัท ม.ขอนแก่น จำกัด” ที่ป้ายมหาวิทยาลัย พร้อมติดสติ๊กเกอร์สีชมพูไว้ที่ป้ายมหาวิทยาลัยด้วย

นายณัฐพงษ์ ภูแก้ว หนึ่งในกลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษาฯ กล่าวว่า การติดสติ๊กเกอร์สีชมพูนี้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเรามีความคาดหวังในการเรียนรู้และมีชีวิตที่สวยงามในมหาวิทยาลัยที่รับใช้ประชาชน เราอยากมองโลกที่สดใส แม้ในตอนนี้จะยังทำอะไรไม่ได้มากมาย แต่สิ่งที่ทำได้คือการออกมาร่วมกันทำกิจกรรมตรงนี้เพื่อแสดงพลัง

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงการออกมาร่วมเคลื่อนไหวในครั้งนี้ว่า ส่วนตัวเขาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบมาตั้งแต่ปี 2551 และถึงปัจจุบันผลกระทบที่เกิดขึ้นก็เป็นจริงตามที่เคยคาดการณ์ไว้ เช่นในเรื่องค่าเล่าเรียนที่แพงขึ้นมาก ขณะที่สภาพแวดล้อมทางการศึกษากลับไม่ได้เอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอนมากขึ้นกว่าเดิมดังที่เคยมีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นยังพบว่าการกำหนดนโยบายและอัตราค่าจ้างของมหาวิทยาลัยก็ไปขึ้นกับสภามหาวิทยาลัยที่มีองค์ประกอบเป็นคนคณะอาจารย์และบุคคลภายนอก โดยมีอธิการบดีเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ

จากกรณีตัวอย่างที่มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยบูรพานำมาบอกเล่าให้กับเพื่อนในเครือข่ายถึงการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐทำให้เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้ง ใน พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ของมหาวิทยาลัยบูรพา ยังระบุถึงการตั้งบริษัทของมหาวิทยาลัยเพื่อนำเงินมาใช้บริหารจัดการ ทำให้เกิดเป็นคำถามต่ออุดมการณ์ที่แท้จริงของสถาบันการศึกษา

นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า การเคลื่อนไหวในวันนี้เป็นกิจกรรมต่อจาก เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่เครือข่ายนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยขอนแก่นออกนอกระบบ ได้เข้ายื่นหนังสือระบุข้อเรียกร้องต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเมื่อครบกำหนด 7 วัน ตามที่ระบุไว้ภายในหนังสือข้อเรียกร้อง ทางเครือข่ายคงต้องออกมาทำกิจกรรมกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในส่วนของเพื่อนกลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษาฯ ได้มีการพูดคุยกันว่า หลังจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อเนื่องไปยังมหาวิทยาลัยอื่นๆ โดยต่อไปคือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจะมีการกระจายข่าวสารผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ในเฟซบุ๊ก

ทั้งนี้ เกี่ยวกับการนำเสนอข่าวการเคลื่อนไหวของนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยขอนแก่นออกนอกระบบ นายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เขียนชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกรณีไม่ยอมลงลายมือชื่อรับทราบการยื่นหนังสือข้อเรียกร้องของเครือข่ายนักศึกษาในท้ายข่าวดังกล่าวของเว็บไซต์ประชาไท (คลิกเพื่ออ่าน)

“ผมได้ชี้แจงประเด็นคำถามที่นักศึกษาถามทุกคำถามจนนักศึกษาที่มาไม่มีประเด็นจะสอบถามเพิ่มเติมแล้วจึงได้เดินทางกลับ การที่ผมไม่เซ็นรับเอกสารเพราะไม่ใช่หน้าที่ของผม แม้หนังสือจากรัฐบาลที่ส่งมาก็มีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่แล้ว และผมก็ได้ชี้แจงแล้วว่าคนที่จะรับจดหมายคือกองกลาง สำนักงานอธิการบดี” คำชี้แจงระบุ

อนึ่ง กลุ่มแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา คัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ประกอบด้วยเครือข่ายจาก 11 มหาวิทยาลัย ดังนี้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยมหิดล

รวมพลังแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ค้าน มหาลัยนอกระบบ ไม่เอา บริษัท มหาวิทยาลัย จำกัด
รวมพลังแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ค้าน มหาลัยนอกระบบ ไม่เอา บริษัท มหาวิทยาลัย จำกัด
รวมพลังแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ค้าน มหาลัยนอกระบบ ไม่เอา บริษัท มหาวิทยาลัย จำกัด
รวมพลังแนวร่วมนิสิต-นักศึกษา ค้าน มหาลัยนอกระบบ ไม่เอา บริษัท มหาวิทยาลัย จำกัด
ที่มา ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คุณพ่อหล่อที่สุดในโลกของสาวน้อยหัวใจแกร่ง “น้องธันย์ ” เหยื่อรถไฟสิงคโปร์

หากเอ่ยถึง “ด.ญ.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์” หลายท่านอาจจะยังไม่คุ้นนัก แต่หากจะบอกว่าเธอคือ “น้องธันย์” เหยื่อรถรางไฟฟ้าสิงคโปร์ที่ถูกตัดขา! หลายคนเป็นต้องร้อง อ๋อ
คุณพ่อหล่อที่สุดในโลกของสาวน้อยหัวใจแกร่ง น้องธันย์  เหยื่อรถไฟสิงคโปร์
“น้องธันย์” เด็กหญิงชาวจังหวัดตรัง วัย 14 ปี ประสบอุบัติเหตุ พลัดตกลงไปในรถรางไฟฟ้าสิงคโปร์ ระหว่างที่เธอเดินทางไปศึกษาด้านภาษาที่ประเทศสิงคโปร์ จนกลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ณ วันนั้น สื่อหลายแขนง มุ่งตรงไปสัมภาษณ์-นำเสนอข่าวการถูกตัดขาทั้งสองข้างของสาวน้อย ที่ใครต่อใครก็มองว่าโชคร้าย... ทว่ากลับตาลปัตร เพราะสิ่งผู้คนในสังคมได้เห็น มิใช่เรื่องราวของสาวน้อยผู้น่าสงสาร น่าหดหู่ แต่เรากลับได้เห็น สาวน้อยที่แสนจะร่าเริงแจ่มใส แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้มแข็ง และมีทัศนคติที่ดี มองสิ่งต่างๆ ในแง่บวก ราวกับไม่ได้มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นกับเธอด้วยซ้ำ!
อ่านเรื่องดีๆต่อ>>>click

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วัยรุ่นนักศึกษาห่วงท้องกว่ากลัวติดเอดส์

วัยรุ่นนักศึกษาห่วงท้องกว่ากลัวติดเอดส์
ศูนย์วิจัยโรคเอดส์หวั่นโรคร้ายกลับมาระบาดอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มชายรักชาย เพราะขาดการป้องกันและไม่ตรวจรักษา อนาถ! วัยรุ่นไทยกลัวท้องมากกว่ากลัวติดเอดส์ สมัครใจกินยาคุมฉุกเฉินมากกว่าใส่ถุงยางอนามัย
ที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ศ.เกียรติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์โรคเอดส์ว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 2 ล้านคน ขณะที่ไทยในปี 2554 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 16,000-20,000 ราย เมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อนถือว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยกว่าอยู่มาก แต่เมื่อเทียบกับการรณรงค์ลดการติดเชื้อเอชไอวีจนนำไปสู่การเป็นศูนย์ โดยเฉพาะการตรวจหาเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจทั่วโลก จะพูดตรงกันว่าไม่ใช่วิธีการที่ดีเลย อย่างที่คลินิกนิรนามซึ่งเปิดบริการมากว่า 10 ปีแล้ว แต่พบว่ามีประชาชนมาตรวจน้อยมาก ทั้งที่รัฐสนับสนุนให้ตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
โดยสถิติผู้มารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวีที่คลินิกนิรนามประมาณสัปดาห์ละ 50 คน ในจำนวนนี้พบมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีจำนวน 4-5 ราย ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่ามีการติดเชื้อในกลุ่มชายรักชายมากขึ้น เพราะขาดการป้องกัน, มีคู่นอนหลายคน, มีเพศสัมพันธ์กันง่ายๆ แสดงให้เห็นว่ามีการระบาดหนักในกลุ่มนี้ ดังนั้น ทำอย่างไรจึงจะทำให้คนกลุ่มนี้ตระหนักถึงการป้องกันตัวเอง และตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจรักษามากขึ้น ขณะเดียวกันยังพบด้วยว่า ขณะนี้มีผู้มาขอรับการตรวจรักษาโรคกามโรคด้วย โดยผลการตรวจจะพบใน 1 สัปดาห์ มีผู้ติดเชื้อกามโรค 1 คน ตนจึงกลัวว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลให้มีการระบาดของโรคเอดส์ในประเทศไทยอีกครั้ง
"เด็กผู้หญิงไทยมีการใช้ยาคุมฉุกเฉินมากกว่าการใช้ถุงยางอนามัย แสดงว่าหญิงไทยกลัวเรื่องท้องมากกว่ากลัวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้น การรณรงค์ในเรื่องนี้ก็ต้องทำต่อไปแต่ควรหาวิธีการใหม่ๆ” ศ.เกียรติคุณ นพ.ประพันธ์กล่าว.

เรื่อง : ไทยโพสต์