เสื้อนักศึกษา ชุดนักศึกษา หญิง ชาย กระโปรงนักศึกษา ไซส์ใหญ่ กระโปรงทรงเอ ทรงสอบ กระโปรงพรีท พรีทเอวต่ำ กางเกง เข็มขัด ตุ้งติ้ง CAMPUS เครื่องแบบนักศึกษา เสื้อนักศึกษาหญิง เสื้อนักศึกษาชาย เสื้อนักศึกษาไซส์ใหญ่ กางเกงนักศึกษา เข็มขัดนักศึกษา หัวเข็มขัด เนกไทนักศึกษา กางเกงเดฟ กระบอกเล็ก ขาม้า รูปภาพนักศึกษาสวย น่ารัก ใส ข่าวประชาสัมพันธ์ด่วน ร้านชุดนักศึกษา แบล็คแอนด์ไวท์ โดนไฟไหม้
หน้าแรก
เสื้อนักศึกษา
กระโปรงนักศึกษา
กางเกงนักศึกษา
เข็มขัดนักศึกษา
ตุ้งติ้งนักศึกษา
ทรงผมรับปริญญา
ไปมอเตอร์โชว์กับนักศึกษา
นักศึกษากับไอที

เพลงรับน้อง เพลงเชียร์กีฬา
รายชื่อมหาวิทยาลัย/สถาบัน
นักศึกษาพาเที่ยว
แบบทรงผมรับปริญญา
ชุดนักศึกษาหญิง ชุดนักศึกษาชาย กระโปรงนักศึกษาไซส์ใหญ่ university uniform,student uniform,Thailand university, Thai girl,Student girl,Pretty girl เที่ยวนักศึกษา ชุดว่ายน้ำ นางแบบ เรื่องเล่านักศึกษา นักศึกษาขาย ของ ดารา บันเทิง แบบทรงผมรับปริญญา

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เต็มที่แบบ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” กับจังหวะชีวิต 2 ภาค

วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น อย่าง "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ดาราดาวรุ่งหน้าใหม่ ที่พกความหล่อเหลาบาดใจสาวๆ บวกความขี้เล่น ติดดิน ซ้ำเจ้าตัวยังเปิดเผยตลอดว่าเป็นคนพื้นเพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถม "เว้าอีสาน" ทุกครั้งที่มีโอกาส มิหนำซ้ำกระแสละครหลังข่าวก็ดังเปรี้ยงๆ เล่นเอานิตยสารหลายสิบปกจองตัวกันให้ควั่ก ไม่ดังตอนนี้แล้วจะไปดังตอนไหน!

แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ คือหนุ่มน้อยหน้าใสนิสัยดีคนนี้ นอกจากจะต้องทำหน้าที่เป็นนักแสดงและนายแบบแล้ว เขายังต้องมุมานะในบทบาท "เฟรชชี่" ของสาขาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ ม.รังสิต อีกด้วย

...กว่าจะมีผลงานทั้งหลายออกมาให้แฟนๆ ชื่นชมและยังต้องเรียนไปด้วย จะโหด มันส์ ฮา แค่ไหน ตามมาดูกันเลย!



ณเดชน์ คูกิมิยะ หรือชื่อที่คนในครอบครัวเรียกว่า “แบร์รี่” เปิดประเด็นสนทนาด้วยการบอกเหตุผลของการเลือกเรียนในสาขาดังกล่าวว่า เป็นเพราะชื่นชอบการทำงานเบื้องหลัง และการทำภาพยนตร์สั้นมาตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายแล้ว เมื่อได้เข้ามาศึกษาต่อ จึงอยากต่อยอดความรู้เกี่ยวกับการทำภาพยนตร์ให้มากขึ้น

"มันเป็นเหมือนการต่อยอดด้วยเพราะผมก็ทำงานในวงการ ต่อมาก็เริ่มสนใจเรื่องการถ่ายภาพด้วยเพราะการเรียนนิเทศฯ ต้องมีกล้อง ต้องใช้เรียนในวิชาการถ่ายภาพเบื้องต้น แล้ว ปี 2 ปี 3 อาจจะต้องถ่ายหนัง ทำหนังสั้น ก็จะต้องใช้กล้องวิดีโอ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบถ่ายรูป ฝึกถ่ายรูปมาเรื่อยๆ มีวิชานอกสาขาที่ได้เรียนเกี่ยวกับการถ่ายภาพนิ่ง อาจารย์ก็พาไปถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ เช่น อยุธยา ก็เหมือนกับเป็นการฝึกถ่ายรูปไปด้วย ก็รู้สึกสนใจครับ"


ดาราดาวรุ่งดวงใหม่รายนี้เล่าต่อว่า การได้ฝึกถ่ายภาพและหาความรู้ด้านนี้อยู่เสมอ มุมมองของภาพเคลื่อนไหวกับภาพนิ่งอาจมีลักษณะในรายละเอียดบางอย่างที่คล้ายๆกัน มีอะไรหลายๆอย่างที่นำมาศึกษาได้ ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับมุมกล้องและการสื่อความหมายของภาพ โดยเฉพาะการได้เข้าฟังความรู้เรื่องภาพถ่ายท่องเที่ยว ก็ทำให้ได้มุมมองเรื่องการถ่ายภาพมากขึ้น

"ก็ได้เรียนรู้ว่าการถ่ายภาพก็ขึ้นอยู่กับจินตนาการ แล้วก็ความคิดของบุคคลนั้นว่าเขาต้องการจะสื่อภาพออกมาในลักษณะแบบใด และต้องการสื่อให้กับใครดู สำหรับความเป็นจริงของภาพท่องเที่ยว มันก็เป็นความจริงทุกภาพของช่างภาพที่เอามานำเสนอ เขามีความเป็นจริงของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า คนที่มองอาจจะมองไม่เห็นในมุมเดียวกันกับที่เขาสื่อออกมา คือถ้ามันออกมาจริงและสวยด้วยมันก็ดี ดูแล้วก็เกิดความอยากไป"

นอกจากนี้ หนุ่มลูกครึ่งเล่าต่อไปว่า หากมีโอกาสได้เป็นผู้กำกับ จะดีใจมาก เพราะถือเป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งที่อยากทำมาตลอด หากมีโอกาสก็ตั้งใจจะเรียนสาขานี้ไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับการทำงานในวงการ

"ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะมีความสามารถขนาดนั้นหรือเปล่า ก็มีอีกตั้งหลายปีที่จะวัดความสามารถของเรา เพราะเพิ่งเรียนชั้นปีที่ 1 เผลอๆอาจจะเรียนไม่ได้อาจจะย้ายสาขาก็ได้ วันหนึ่งอาจปลีกตัวไปทำอย่างอื่นหรืออาจทำงานวงการบันเทิงไปชั่วชีวิตเลยก็ได้ แต่ผมก็มองอีกมุมหนึ่งว่า ผมก็อยู่ในฐานะที่เป็นนักศึกษาอยู่ ตัวงานในวงการมันก็ไม่ได้สำคัญมากกว่าการเรียนในตอนนี้ แต่ว่ามันเป็นโอกาสๆหนึ่งที่ทำให้ผมและครอบครัวมีรายได้ ผมมีเงินเก็บ ได้เจอสังคมที่คนอื่นไม่ได้เจอในขณะที่ยืนอยู่ในฐานะนักศึกษาเหมือนผม"


ณเดชน์ให้ทัศนะเกี่ยวกับการเรียนและการทำงานควบคู่กันว่า การทำ 2 อย่างพร้อมๆ กัน ย่อมมีอุปสรรคแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องเวลาที่เขาจำเป็นจะต้องบริหารจัดการให้ดี เพื่อที่จะสามารถทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆกันได้แม้ว่าจะเหนื่อยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถและความมุ่งมั่นตั้งใจ

"ผมเรียน 3 วัน พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ พุธไม่รับงาน พฤหัสบดี-ศุกร์ รับบ่ายเพราะเรียนเช้า ถ้าวันไหนว่างก็โชคดีไป ถ้าวันไหนมีงานก็ไปทำงาน ถ้าถามว่าเหนื่อยมากถึงขนาดไม่ไหวมั้ย มันก็ไม่ใช่ เรายังพอทำได้อยู่ มันก็เหนื่อยครับแต่ว่าเวลาแม่เห็นเราได้รับรางวัล เห็นผลงานเราตามนิตยสารต่างๆ แม่ก็จะชม จะดีใจ รู้สึกปลื้มในสิ่งที่เราทำ มันทำให้เรารู้สึก เฮ้ย! เราต้องทำได้และทำให้ดีกว่านี้ขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งแม่ก็บอกว่า เรียนก็เรียนแต่อย่าไปเครียด ทำงานก็ทำงานแต่อย่าไปเครียด บางคนบอกว่าจับปลา 2 มือมันยาก เผลอๆ จับไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ความจริงเราอาจจะจับได้นะ แต่เราจะจับยังไง ใช้วิธีไหนจับมากกว่า ก็เหมือนกับว่าตอนนี้ผมเรียนกับทำงาน ผมจะทำยังไงเพื่อที่จะประคอง 2 อย่างนี้ ให้มันได้ตลอดรอดฝั่ง"


ณเดชน์ยังเล่าชีวิตนักศึกษาที่ต้องทำงานคู่กันไปด้วยว่า การเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากเราทิ้งการเรียน เพื่อหันเข้าหาวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว ก็อาจเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไป หากวันหนึ่งไม่สามารถอยู่ในวงการได้ ก็กลายเป็นคนไม่มีความรู้ ไม่มีการศึกษา และที่สำคัญต้องเชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่ แม้ว่าวัยรุ่นบางคนจะไม่ชอบ หรือเบื่อที่จะฟัง แต่สำหรับเขากลับมองว่าคำสอนเหล่านั้นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด

"ตอนนี้การเรียนก็สำคัญกว่า สมมติผมเลือกที่จะทำงานในวงการแล้วไม่เรียน แล้ววันหนึ่งผมไม่ได้ทำงานตรงนั้นแล้ว ก็กลายเป็นคนไม่มีการศึกษา มันดูต่ำต้อยนะในความรู้สึกส่วนตัวของผม คือ ครอบครัวเราตั้งความหวังว่าให้เราเรียนให้จบมหาวิทยาลัย พ่อผมบอกเสมอว่าไม่ต้องต่อโท ต่ออะไรหรอก จบ ป.ตรีแล้วก็ทำงานเอาประสบการณ์ดีกว่า ก็พ่อแม่บอกอะไรเราก็ฟัง อันไหนเราไม่เห็นด้วยเราก็คุยกันได้ ซึ่งส่วนมากคำพูดของผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ พ่อแม่เคยผ่านชีวิตวัยรุ่นวัยเรียนมาก่อน เขาก็จะบอกเราได้ ถ้าน้องๆเพื่อนๆที่อยากเข้าวงการบันเทิง ควรให้พร้อมก่อน พร้อมเรื่องเวลาไหม ความรับผิดชอบคุณพร้อมไหม คุณดูแลตัวเองได้ไหม ครอบครัวคุณพร้อมไหม มันหลายๆอย่าง เอาเป็นว่าก็ตั้งใจเรียนก่อน และเชื่อฟังพ่อแม่ครับ" ณเดชน์ทิ้งท้าย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น